วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ก่อนเกิดสงครามกรุงทรอย

๏ ทรอย (Troy) ตั้งชื่อตามกษัตริย์ ทรอส (Tros) ผู้เริ่มก่อตั้งนคร หรืออีกชื่อหนึ่งคือ อิเลียม (Ilium, Iliom) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อมหากาพย์อิเลียดนั้น ถูกเรียกตามกษัตริย์รัชกาลที่ 4 แห่งทรอย เป็นบุตรของกษัตริย์ทรอส ชื่อว่า อิลัส (Ilus) ส่วนชาวเมืองทรอย มีชื่อเรียกว่า ชาวโทรจัน (Trojan)
๏ ทรอย ตั้งอยู่ในแคว้นโทรด (Troad) บนผืนแผ่นดินเอเชียน้อย หรือเอเชียไมเนอร์ ริมฝั่งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลอีเจี้ยน (Aegean) ทะเลที่กั้นกลางระหว่างดินแดนกรีซและเอเชียน้อย ตัวเมืองตั้งอยู่ลึกจากชายฝั่งทะเลเข้าไปในหุบเขาเป็นชัยภูมิที่มั่นคง แวดล้อมด้วยเนินเขาและแม่น้ำสองสาย
๏ ทรอย มีกำแพงเมืองล้อมรอบประกอบด้วยค่ายคูประตูหอรบและเชิงเทินอันแข็งแกร่ง เล่าว่า เมื่อครั้งกษัตริย์อิลัสเสริมสร้างป้อมปราการและกำแพงนครให้มั่งคงแข็งแรงนั้น พระองค์ได้รับเทวรูปศักดิ์สิทธิ์มาองค์หนึ่ง เป็นประติมากรรม
เทวีอาธีน่า (Athena) ซึ่งชาวโทรจันเชื่อว่าตราบใดที่เทวรูปนี้ยังอยู่ในนคร ทรอยจะไม่มีวันแตกได้ เทวรูปเทวีอาธีน่าจึงเป็นสิ่งคู่บ้านคู่เมืองทรอย
๏ ต่อมาท้าวเพรียม (Priam) หรือ
โพดาร์ซิส (Podarces) ได้ถูกสถาปนาเป็นกษัตริย์รัชกาลที่ 6 แห่งทรอย มีคู่ครองคือเฮกคิวบา (Hecuba) มีบุตรธิดาด้วยกัน 19 คน ผู้ที่ควรกล่าวถึงคือ เฮกเตอร์ (Hector) , ปารีส (Paris) , ไดโฟบัส (Deiphobus) , เฮลเลนัส (Helenus) , โพลิกซีนา (Polyxena) และคาสซันดรา (Cassandra)

๏ เมื่อราชินีเฮกคิวบาตั้งครรภ์ ได้ฝันบอกเหตุร้ายว่าบุตรจะเป็นผู้ก่อเหตุเดือดร้อนให้บ้านเมืองถึงคราวล่มสลาย กษัตริย์เพรียมจึงสั่งให้นำทารกไปสังหาร แต่เพราะโชคชะตา หรือความสงสาร ทารกได้ถูกทิ้งไว้บนเขาไอดา (Ida) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทรอย คนเลี้ยงแกะบริเวณนั้นนำทารกไปเลี้ยงจนเติบใหญ่เป็นหนุ่มรูปงาม ชื่อว่า ปารีส
๏ ปารีสได้เป็นผู้คุมฝูงแกะ และได้
อีโนนี (Oenone) เป็นภรรยา พร้อมทั้งให้กำเนิดบุตรกับปารีส ปารีสครองคู่กับอีโนนีด้วยความผาสุก จนกระทั่งวันหนึ่งปารีสติดตามคนเลี้ยงแกะเข้าสู่ทรอยซึ่งขณะนั้นมีงานฉลอง และมีการแข่งขันประลองฝีมือระหว่างบรรดาลูกเจ้านครและแม่ทัพนายกอง
๏ ปารีสซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงคนจรได้เข้าร่วมประลองฝีมือ ได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ปรากฏต่อหน้าบัลลังก์และผู้คนชาวโทรจัน จนชนะใจกษัตริย์เพรียมและปวงชน เมื่อได้ไล่เลียงถึงประวัติถึงได้รู้ว่าเป็นเจ้าชายคนหนึ่งแห่งทรอย
๏ ด้วยรูปโฉมที่งดงามและเพรียบพร้อมด้วยความสามารถ กษัตรย์เพรียมลืมคำพยากรณ์ไปเสียสนิท อีกทั้งยินดีปรีดิ์เปรมในตัวบุตรชาย ปารีสจึงได้รับการสถาปนาให้เป็นเจ้าชายแห่งทรอยอย่างสมเกียรติ ได้เข้ามาเสวยสุขอยู่ในนคร จนลืมอีโนนีและลูกน้อย


๏ กษัตริย์เพรียมคิดถึงฮีไซโอนี (Hesione) น้องสาวที่พลัดพรากจากกันไป จึงได้แต่งตั้งให้ปารีสคุมขบวนเรือไปยังดินแดนกรีซ เพื่อไปรับตัวอาของปารีสลับสู่นครทรอย แต่ความมุ่งหมายของปารีส คือได้ยลโฉมเฮเลนแห่งนครสปาร์ตา เพราะได้ยินกิตติศัพท์ความงามที่สุดของสตรีผู้นี้
๏ สปาร์ตาในขณะนั้นอยู่ในความปกครองของเมเนเลอัส ซึ่งได้สืบวงศ์ต่อจากกษัตริย์ทินดารูส ทั้งกษัตริย์เมเนเลอัสและราชินีเฮเลน ต้อนรับอาคันตุกะหนุ่มรูปงามอย่างเอิกเกริกสมเกียรติเจ้าชายแห่งทรอย อีกทั้งเชื้อเชิญให้พำนักอาศัยอยู่ในราชวังในระหว่างเดินทางมาเยี่ยมเยียน
๏ ปารีส เมื่อเห็นเฮเลนที่งดงามหมดจด จึงเกิดความพิศวาสหลงรัก หลงใหลเฝ้าประสงค์ในความเป็นเจ้าของต่อเธอ จนลืมถึงไมตรีจิตที่เมเนเลอัสมอบให้โดยไม่ซื่อ อนิจจา! เหตุใดเล่า พระนางเฮเลนก็เช่นกัน พระนางต้องใจชายหนุ่มรูปงามผู้นี้ในครั้งแรกที่ได้พบด้วยความเสน่หา

๏ เมื่อกษัตริย์เมเนเลอัสมีกิจธุระต้องเดินทางข้ามทะเลไปยังเกาะครีต (Crete) ทิ้งเฮเลนไว้ลำพังในสปาร์ตา ด้วยอำนาจรักและใคร่ที่มิอาจหักห้ามใจได้ ปารีสได้ลักพาเฮเลนหนีลงเรือไปยังทรอยทันที ไม่ว่าเฮเลนจะสมยอมหรือไม่ กษัตริย์เพรียมได้รับรองเธอเป็นสะใภ้ด้วยความยินดี หรือเพื่อเป็นการทดแทนการกลับมาของฮีไซโอนีน้องสาวก็หารู้ได้


๏ ทางฝ่ายเมเนเลอัสเมื่อกลับจากครีต ได้ทราบข่าวก็เสียใจ โกรธแค้นปารีสยิ่งนัก ได้แต่งขบวนเรือรบพร้อมอาวุธเต็มอัตราเพื่อไปยังน่านน้ำแคว้นโทรด หมายจะรบพุ่งชิงตัวเฮเลนกลับคืน พร้อมกับประกาศร้องขอความช่วยเหลือไปตามแว่นแคว้น และนครใหญ่น้อย รวมทั้งพันธมิตรทั่วกรีก โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่กระทำสัตย์สาบานไว้


อ้างอิง http://waris42.exteen.com/20060715/entry